ขั้นตอน “เริ่มต้น” สู่การเป็นนักลงทุน & เทรดเดอร์

ขั้นตอน “เริ่มต้น” สู่การเป็นนักลงทุน & เทรดเดอร์

Photo by Karsten Winegeart / Unsplash
“ประตูบานแรก” ของเส้นทางสาย นักลงทุน และ เทรดเดอร์ — ซึ่งแม้จะดูคล้ายกัน แต่จริง ๆ แล้วแตกต่างกันชัดเจนทั้งแนวคิด เป้าหมาย และวิธีดำเนินการครับ

💡 ก่อนอื่น: เข้าใจความแตกต่างก่อน

ประเภทนักลงทุน (Investor)เทรดเดอร์ (Trader)
แนวคิดเน้น “เติบโตในระยะยาว” ผ่านการถือสินทรัพย์เน้น “เก็งกำไรระยะสั้น” จากการเคลื่อนไหวของราคา
ระยะเวลาถือเป็นเดือน–ปี–สิบปีถือเป็นนาที–วัน–สัปดาห์
วิเคราะห์วิเคราะห์พื้นฐาน (Fundamental)วิเคราะห์กราฟ / เทคนิคล (Technical)
เป้าหมายสร้างความมั่งคั่งสร้างรายได้จากการเทรด
ทัศนคติใจเย็น มองระยะยาวคล่องตัว จัดการความเสี่ยงเร็ว

🪜 ขั้นตอน “เริ่มต้น” สู่การเป็นนักลงทุน & เทรดเดอร์

ผมจะแบ่งเป็น 2 เส้นทางให้เห็นภาพชัดครับ 👇


🧭 เส้นทางที่ 1: นักลงทุน (Investor)

ขั้นตอนที่ 1 — เรียนรู้พื้นฐานการลงทุน

  • ศึกษาความรู้พื้นฐาน เช่น:
    • ดอกเบี้ย, เงินเฟ้อ, มูลค่าปัจจุบัน (PV/FV)
    • การอ่านงบการเงิน, P/E, P/BV, ROE, ROA
    • การกระจายความเสี่ยง (Diversification)
  • หนังสือแนะนำ:
    • The Intelligent Investor – Benjamin Graham
    • One Up on Wall Street – Peter Lynch

ขั้นตอนที่ 2 — เลือกสินทรัพย์ที่ต้องการลงทุน

เช่น

  • หุ้น (Stocks) – ลงทุนในบริษัทจดทะเบียน
  • กองทุนรวม (Mutual Funds)
  • ETF / Index Fund
  • ทองคำ / น้ำมัน / สินค้าโภคภัณฑ์
  • อสังหาริมทรัพย์ / REITs
  • คริปโทเคอร์เรนซี (Crypto) (ถ้ารับความเสี่ยงได้สูง)

ขั้นตอนที่ 3 — เปิดบัญชีลงทุน

  • เปิดบัญชีผ่าน โบรกเกอร์หลักทรัพย์ (เช่น บล. กสิกร, บัวหลวง, หยวนต้า ฯลฯ)
  • ทำแบบประเมินความเสี่ยง (Suitability Test)
  • ฝากเงิน และเริ่มซื้อขาย

ขั้นตอนที่ 4 — วางแผนการลงทุนระยะยาว

  • ตั้งเป้าหมายทางการเงิน (เกษียณ, สร้างรายได้พาสซีฟ ฯลฯ)
  • ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ (DCA)
  • ประเมินผลทุก 3–6 เดือน

⚡ เส้นทางที่ 2: เทรดเดอร์ (Trader)

ขั้นตอนที่ 1 — เข้าใจตลาดและรูปแบบการเทรด

  • ตลาดที่นิยม: Forex, หุ้น, ฟิวเจอร์ส, Crypto, ดัชนี, Options
  • รูปแบบเทรด:
    • Scalping (นาที)
    • Day trading (รายวัน)
    • Swing trading (หลายวัน)
    • Position trading (หลายสัปดาห์)

ขั้นตอนที่ 2 — ศึกษาเครื่องมือเทรด

  • เทคนิคอล (Technical Analysis) เช่น
    • Trend, Support–Resistance, Candlestick, Moving Average
    • RSI, MACD, Fibonacci, Bollinger Bands
  • Risk Management
    • Cut loss, Take profit, Position sizing, R:R ratio

ขั้นตอนที่ 3 — ฝึกบนบัญชีทดลอง (Demo)

  • ใช้แพลตฟอร์มเช่น TradingView, MetaTrader, cTrader, Binance demo
  • ฝึกวิเคราะห์ กำหนดกลยุทธ์ และจดบันทึกเทรด (Trading Journal)

ขั้นตอนที่ 4 — ลงเงินจริงอย่างมีระบบ

  • เริ่มจากทุนเล็ก (ไม่เกิน 10–20% ของเงินเก็บ)
  • มีแผนเทรดชัดเจน (Entry, Stop loss, Take profit)
  • บริหารจิตวิทยา (ไม่โลภ–ไม่กลัว–ไม่แก้แค้นตลาด)

ขั้นตอนที่ 5 — พัฒนาเป็น “เทรดเดอร์มืออาชีพ”

  • เขียนระบบเทรด (Trading System)
  • ใช้กลยุทธ์เฉพาะ (เช่น Trend Following, Mean Reversion)
  • สร้างพอร์ตเสริม เช่น Copy trading หรือ Algorithmic trading

💼 ทุนเริ่มต้นที่เหมาะสม

ประเภททุนเริ่มต้นขั้นต่ำหมายเหตุ
หุ้นไทย1,000–5,000 บาทเริ่มได้ผ่านแอปโบรกเกอร์
กองทุนรวม500–1,000 บาทลงทุนระยะยาว DCA ได้
Forex / Crypto50–200 USDใช้ leverage ได้ แต่ต้องบริหารความเสี่ยง
ฟิวเจอร์ส10,000–50,000 บาทเหมาะกับผู้มีประสบการณ์

🧠 เคล็ดลับสำคัญสำหรับมือใหม่

  1. เริ่มจากการเรียนรู้ก่อนลงเงินจริง
  2. มีระบบบริหารความเสี่ยงเสมอ (Risk < 2% ต่อเทรด)
  3. อย่าเทรดด้วยอารมณ์ — ให้ระบบนำทาง ไม่ใช่ความรู้สึก
  4. จดบันทึกเทรดทุกครั้ง เพื่อพัฒนากลยุทธ์ของตัวเอง
  5. สร้างรายได้หลักไว้ก่อน เทรด/ลงทุนควรเริ่มจากเงินเย็น